วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 10

"กรณ์"เชียร์ซื้อหุ้นผ่าน"FB-Twitter"โอ่เงินนอกไหลเข้าดันดัชนีพุ่ง



"กรณ์ จาติกวณิช" อดใจไม่ไหวคุยโอ่ผลงานรัฐบาลดันดัชนีตลาดหุ้นพุ่งเท่าตัว จาก 440 เป็น 875 ก่อนเล่นบทนักวิเคราะห์เชียร์ซื้อหุ้นผ่าน "เฟซบุ๊ค" และ "ทวิตเตอร์" ตนเอง ระบุ "ไม่มีสาเหตุอะไรที่จะขึ้นต่อไปไม่ได้" เพราะ "เงินนอก" ไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง ดอกเบี้ยเพิ่ม ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊คของตนเองเมื่อเวลา 21.16 น. วันที่ 9 ส.ค.โดยมีการโพสต์ภาพประกอบเป็นสถิติดัชนีตลาดหลักทรัพย์ย้อนหลังตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีการโพสต์บทความดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ของตนเองเวลาประมาณ 22.40 น. ที่ http://twitter.com/korndemocrat โดยระบุในบทความของตนที่ http://bit.ly/b0GS74 ระบุว่า

"จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังจะมีคนถามผมว่า “ซื้อหุ้นตัวไหนดี” ผมก็ลำบากใจจริง ๆ เพราะพูดกี่ครั้งก็ไม่มีคนเชื่อว่าผมไม่รู้จริง ๆ และไม่ได้ซื้อขายหุ้นตั้งแต่สมัยเป็นฝ่ายค้าน"

"ความจริง “ข้อมูลภายใน” (หมายถึงข้อมูลที่นักลงทุนคนอื่นยังไม่ทราบ) เราที่กระทรวงการคลังมีอยู่แล้วครับ และนั่นคือเหตุผลที่ผมและทีมงานจะเล่นหุ้นกันไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่ยุติธรรมกับผู้อื่นแล้ว ยังผิดกฎหมายด้วย แค่เอาข้อมูลนี้ให้กับผู้อื่นโดยที่เราไม่ได้ประโยชน์อะไรโดย ตรง ก็ผิดแล้วครับ ... แต่ก็ยังจะมีคนคอยถามอยู่เรื่อย คงโกรธผมไปหลายคนแล้วว่า ทำไมใจดำ ไม่ยอมกระซิบบอกซะหน่อย"

"ความจริง ความผิดในเรื่องนี้ คนที่อยู่นอกวงการหุ้นจะไม่เข้าใจ เพราะนึกไม่ออกว่ามีใครเสียหายจากการใช้ข้อมูลภายใน จะมีคนพูดกับผมบ่อย ๆ ว่า “เอาน่า...บอกผมหน่อยคุณกรณ์ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก” แต่สำหรับพวกเราที่อยู่ในวงการหุ้นมา โดยเฉพาะเหล่าโบรกเกอร์ทั้งหลายจะรู้ว่า การกระทำเช่นนี้ เป็นเรื่องต้องห้ามจริงๆ เพราะผู้เสียหายมีจริง เวลาคุณมีข้อมูลภายใน และคุณใช้ข้อมูลนั้นซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ผู้ที่ขายให้คุณเขาเสียเปรียบเพราะเขาขายโดยที่มีข้อมูลน้อยกว่าคุณ และถ้าตลาดหุ้นไม่มีความเสมอภาค ขาดความเป็นธรรมก็จะไม่มีใครกล้ามาลงทุน"

"แต่ถ้าถามผมว่า ตอนนี้หุ้นน่าจะซื้อได้ไหม ผมคงตอบได้ครับว่า น่าจะได้ พูดไปแล้ว ก็ต้องบอกว่าถ้าเศรษฐกิจดี การเมืองไม่วุ่นวาย (เกินไป) หุ้นต้องขึ้นอยู่แล้ว และตั้งแต่เรามาเป็นรัฐบาล ดัชนีหุ้นก็ขึ้นไปจาก 440.40 จุด เป็น 875.07 จุด และไม่มีสาเหตุอะไรที่จะขึ้นต่อไปไม่ได้"

"แนวโน้มเงินนอก คงจะเข้าต่อเนื่องเพราะ
1. ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนดีกว่าที่คาดไว้เป็น ส่วนใหญ่
2. สถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้น น่าจะหมายถึงเวลาในการทำงานของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น โดยที่การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในสภาวะปกติ
3. การส่งออกที่ดีขึ้นย่อมหมายถึง เงินบาทที่มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น จึงทำให้ความเสี่ยงการถือครองทรัพย์สินในไทยลดลงในสายตาของนัก ลงทุนต่างประเทศ
4. ปัจจุบัน ต่างประเทศมองว่า เงินบาทอ่อนกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำไป
5. ดอกเบี้ยเริ่มปรับขึ้น ยิ่งทำให้น่าถือเงินบาทมากขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังจะต่ำต่อไป
6. ผลสรุปของคณะกรรมการปฏิรูปช่วงปลายปี น่าจะส่งเสริมให้บรรยากาศการเมืองดีขึ้นด้วย"

"อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องเตือนทุกครั้งครับว่า การลงทุนมีความเสี่ยง และในการลงทุนในตลาดทุนนั้น ผมมีหลักที่ใช้มาโดยตลอดคือ
1. อย่าคิดว่าเรา “เล่นหุ้น” แต่เป็นการซื้อส่วนหนึ่งของกิจการ เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ต้องทำความเข้าใจกับกิจการนั้น ๆ และที่สำคัญต้องสามารถเชื่อใจในความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร สำหรับผมประเด็นนี้สำคัญที่สุดเสมอ
2. ความผันผวนในตลาดหุ้นเป็นโอกาส เพียงต้องรักษาสติ อย่าไปเต้นตาม
3. ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเสมอ ใครที่บอกว่า “ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อน” คือผู้ที่กำลังจะพลาดท่าครั้งใหญ่
4. ทิ้ง 10% สุดท้าย (ทั้งตอนที่ซื้อและตอนที่ขาย) ให้คนอื่นเถอะครับ อย่าโลภ
5. อย่าซื้อหรือขายหุ้น เพียงเพราะหุ้นกำลังขึ้น หรือกำลังลง นั่นคือการ “เล่น” ตามกระแส ไม่ใช่การลงทุน
ตลาดหุ้นนั้น ถ้าบริหารจัดการให้ดี จะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจได้มากครับ เพราะบริษัทต่างๆ จะระดมทุนไปลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ และนอกจากนั้น บริษัทในตลาดหุ้นจะเสียภาษีถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ด้วยครับ"


ที่มา link

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 9

ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์: “ทวิตเตอร์ไม่ได้มีไว้ขาย!”




ในงานเปิดตัวทวิตเตอร์โมบายในประเทศญี่ปุ่น คุณ Biz Stone ผู้ก่อตั้งร่วมของทวิตเตอร์ได้กล่าวไว้ว่า “ทวิตเตอร์ไม่สนใจว่าใครจะมาซื้อ เรา [ทวิตเตอร์] ต้องการสร้างบริษัทที่น่าทึ่งด้วยมือของเราเอง

และเชื่อว่าเราสามารถทำตามเป้าหมายนั้นได้” เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีขายทวิตเตอร์อย่างแน่นอน

“Twitter is not interested in being acquired by a bigger company. We want to build an impressive company on our own and we believe that we can.”



ถึงแม้การขยายตัวของฐานลูกค้านั้นจะไม่ได้เพิ่มรายได้ให้กับผู้ก่อตั้ง กระนั่นนักวิเคราะห์ก็คาดว่าทวิตเตอร์นั้นมีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่มีข่าวลือหนาหูถึงการที่บริษัทใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ กูเกิล หรือเฟซบุ๊กจะเข้าซื้ออยู่นั้น ผู้ก่อตั้งทั้งสองคือคุณ Biz Stone และคุณ Evan Williams ก็ได้เริ่มต้นธุรกิจผลิตไวน์ในชื่อ “Fledgling Wine” โดยร่วมมือกับโรงกลั่นไวน์ Crushpad ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเงินที่ได้จากการขายส่วนหนึ่งจะนำไปสนับสนุนองค์กรไม่หวังผลกำไร Room to Read ที่จัดสร้างห้องสมุด โรงเรียน และให้ทุนสนับสนุนแก่นักเรียนหญิง ในพื้นที่ที่ขาดแคลนทั่วโลก โดยทั้งสองได้กล่าวว่าการสนับสนุนองค์กรดังกล่าวจะส่งผลให้ทวิตเตอร์เติบโตขึ้น เพราะ “ถ้าคุณอ่านไม่ออก คุณก็ไม่สามารถทวีตได้!”


ที่มา link

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 8

ทักษิณ ชินวัตร กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดศึกออนไลน์ใน twitter



แม้ว-มาร์ค” เริ่ม ศึกออนไลน์ สู้กันในทวิตเตอร์ (ไทยรัฐ)

ศึกแย่งชิงมวลชนระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร – อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ได้เปลี่ยนแนวรบเข้าไปในโลกไซเบอร์แล้ว ทวิตเตอร์ทั้งคู่ต่างอัพเดทกันอย่างน่าสนใจ โดย

เฉพาะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” บอกให้แฟนๆ รอดูเฉลยว่าใครเป็นคนทำ ทวิตเตอร์ twitter ให้ ในวันนี้

ที่รัฐสภา เมื่อวานนี้ (27 กรกฎาคม) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบิ๊กเซอร์ไพรส์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเพราะมาจากการที่กลุ่มประเทศยูเออี ไม่ยินยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวโจมตีหรือบ่อนทำลายประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเปลี่นแนวทางมาเป็นเสนอโครงการขายสินค้าโอทอป และเรื่องต่างๆ ทั้งที่โครงการเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนกรณีจะใช้สถานีโทรทัศน์ 100 ช่องมาดำเนินการในเรื่องนี้โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย หากไม่มีการปลุกระดมหรือสร้างความแตกแยก ก็เป็นเรื่องที่ กทช.จะพิจารณา แต่ถ้าเข้าข่ายยั่วยุ รัฐบาลจะไม่ยินยอมให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อความที่นายกรัฐมนตรีเข้าไปอวยพรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊คนั้น เป็นการดำเนินการของเครือข่ายของนายกรัฐมนตรีที่เจตนาดี และใช้คำพูดของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เข้าไปอวยพรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีเจตนาหรือแอบอ้างให้เกิดความสับสน ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวไม่ได้มีเงินเดือน แต่จะทำงานในลักษณะเครือข่ายอาสาสมัคร ที่จะเข้ามาช่วยดูแลเว็บบอร์ดต่างๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าไปสังเกตการณ์ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ twitter ทั้งของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พบว่ามีความเคลื่อนไหวอัพเดทข้อมูล โดยมีคนเข้าไปเยี่ยมชม และโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

โดยที่ Thaksinlive ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับบิ๊กเซอร์ไพรส์ ว่า “สำหรับ 3 โครงการที่ผมบอกไปเมื่อวาน ทุกท่านมีความเห็นอย่างไรครับ และอยากให้ผมช่วยเหลือประเทศชาติเรื่องไหนอีก ลองมาคุยกันครับ” ซึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย รวมถึงอวยพรวันเกิด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับมาว่า “ขอบคุณครับ สำหรับคำอวยพรและกำลังใจที่มีให้ผม ถึงวันนี้ผมจะเหนื่อยกาย แต่ผมอยากเห็นคนไทยมีความสุข ขอบคุณครับ”

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โพสต์รูปถ่ายของตัวเองตามสถานที่ต่างๆ ในต่างประเทศ และบอกว่าเป็นฝีมือการถ่ายภาพของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย

ขณะที่ ทวิตเตอร์ของ นายอภิสิทธิ์ PM_Abhisit นั้น ได้โพสต์เกี่ยวกับคำถามว่าทวิตเตร์ดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ทำเอง หรือมีทีมงานทำให้ โดยได้โพสต์ว่า “ย้ำอีกครั้งนะครับ รอพบกับรายละเอียดเฉลยคำตอบของ twitter@PM_Abhisit ได้ที่นี่พรุ่งนี้ครับ” และบอกว่า ทวิตเตอร์ดังกล่าวเป็นการเปิดช่องทางสื่อสารโดยตรงกับประชาชนในส่วนของ Direct Messages@PM_Abhisit จะเริ่ม follow กลับทุกคนตั้งแต่ 18.00 น. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจความคิดเห็น หรือทวิตโพล ว่า “คุณคิดว่าใครพิมพ์ twit ให้ @PM_Abhisit ซึ่งปรากฏว่า ส่วนใหญ่ 47% เห็นว่าเป็นเลขาฯ รองลงมาคือ @PM_Abhisit พิมพ์เองแน่นอน 17% ลูกพรรค 13% แฟนคลับ 12% ลูกสาว 7% และ bot หรือโปรแกรมอัตโนมัติ 4%


ที่มา link

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 7


ทวิตเตอร์เสี่ยงระบบล่ม



ทวิตเตอร์รับเสี่ยงระบบล่มเพราะบอลโลก

ทวิตเตอร์ (Twitter) บริการรับส่งข้อความบล็อกสั้นยอดนิยมที่พบวิกฤตระบบล่มครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ออกมายอมรับว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ระบบทวิตเตอร์จะพบปัญหาอีกครั้งจากปริมาณการใช้งานระบบที่เพิ่มขึ้นเพราะมหกรรมฟุตบอลโลกหรือ Fifa World Cup 2010

Jean-Paul Cozzatti วิศวกรทวิตเตอร์ออกมายอมรับผ่านบล็อกของบริษัทว่า ปัญหาระบบทวิตเตอร์ล่มครั้งล่าสุดนั้นเกิดเพราะปัญหาการใช้งานเครือข่ายภายในหนาแน่นเกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทวิตเตอร์ต้องปรับเพิ่มขีดความสามารถให้สามารถรองรับบริการเพิ่มอีก 2 เท่าตัว และเพิ่มมาตรการสร้างสมดุลของทราฟฟิกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าความนิยมในเทศกาลฟุตบอลโลกอาจทำให้เกิดความผิดพลาดของระบบขึ้นอีก โดยเฉพาะในนัดการแข่งขันระหว่างประเทศยอดนิยม ซึ่งเชื่อว่าจะมีจำนวนข้อความมหาศาลถูกส่งผ่านเครือข่าย
ที่มา link

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 6

Twitter พร้อมโกยเงิน



สัปดาห์ที่ผ่านมา "ทวิตเตอร์ (Twitter)" เครือข่ายสังคมยอดฮิตสร้างความฮือฮาในงานประชุมนักพัฒนาซึ่งทวิตเตอร์เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นครั้งแรกที่ซานฟรานซิสโกในชื่อ "เชิร์ป (Chirp)" ด้วยการเปิดตัวบริการ "โปรโมททวีตส์ (Promoted Tweets)" ระบบทำเงินให้ทวิตเตอร์ลักษณะเดียวกับโฆษณาออนไลน์บนเสิร์ชเอนจิ้น ที่น่าสนใจคือผู้บริหารย้ำว่านี่ไม่ใช่โฆษณา แต่เป็นข้อความทวีตธรรมดาที่ผู้ใช้จะไม่เบื่อหน่าย

ทวิตเตอร์นั้นเป็นบริการรับส่งข้อความสั้นออนไลน์สำหรับบอกเล่าเพื่อนในกลุ่มว่ากำลังทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ในขณะนั้น เพื่อบอกเล่าความเป็นไป (อัปเดทสถานะ) ขนาดไม่เกิน 140 ตัวอักษร ข้อความที่ถูกส่งไปมาจะถูกเรียกว่าทวีต (tweet)

นอกจากการเปิดตัวรูปแบบธุรกิจเพื่อสร้างกำไรให้ทวิตเตอร์ งานนี้ทวิตเตอร์ประกาศว่าได้เข้าซื้อบริษัท Atebits ผู้สร้างแอปพลิเคชัน Tweetie สำหรับให้ผู้ใช้สามารถทวีตข้อความได้บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโปรแกรม Tweetie จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Twitter for iPhone ในอนาคตอันใกล้

**ดีกว่ากูเกิล?**

โปรโมททวีตส์คือข้อความทวีตที่นักการตลาดต้องการประชาสัมพันธ์แก่สมาชิกทวิตเตอร์ ด้วยการจ่ายเงินให้ข้อความทวีตนั้นปรากฏในส่วนบนสุดของหน้าแสดงผลการค้นหาหรือ Twitter Search โดยจะแสดงข้อความบนพื้นหลังที่ต่างจากทวีตทั่วไป และมีการติดป้ายว่านี่คือข้อความทวีตที่ได้รับการสนับสนุน

หลักการทำงานของทวีตขณะนี้จะมีลักษณะเดียวกับระบบโฆษณาของเสิร์ชเอนจิ้นทั่วไป คือเมื่อผู้ใช้ต้องการค้นหาข้อความทวีตย้อนหลัง จะต้องพิมพ์คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป ผลลัพท์ที่ได้จากการค้นหาก็จะปรากฏเป็นรายการข้อความทวีตที่เกี่ยวข้อง โดยทวิตเตอร์จะดึงโปรโมททวีตส์ไว้ที่ด้านบนสุดของเว็บเพจ และเก็บค่าโฆษณาจากจำนวนการเข้าชมโปรโมททวีตส์ ทั้งหมดนี้ทำให้โปรโมททวีตส์ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการนำระบบโฆษณาตามคำสืบค้นของกูเกิลอย่าง Google Adwords มาใช้ เพราะหลักการที่คล้ายคลึงกัน

จุดเด่นของระบบนี้คือการเข้าถึงผู้บริโภคได้ดี แถมข้อความทวีตประเภทกระจายข่าวโปรโมชันลดแลกแจกแถมจะยิ่งช่วยกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคได้ด้วย ที่สำคัญ โปรโมททวีตส์มีแผนเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม โดยทวิตเตอร์จะลงมือวิเคราะห์ข้อความทวีตของผู้ใช้ทุกคน คนที่ติดตาม และปัจจัยร่วมอื่นๆ เพื่อนำเสนอข้อความโปรโมททวีตส์ที่คาดว่าผู้ใช้จะสนใจได้

เช่น หากสมาชิกทวิตเตอร์รายใดโพสต์ข้อความเกี่ยวกับวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ ระบบทวิตเตอร์จะแสดงโปรโมททวีตส์จาก Virgin America เพื่อให้ข้อมูลส่วนลดพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าวได้ นอกจากนี้หากมีการนำระบบระบุพิกัดแผนที่ (Geo-Location) เข้ามาร่วมในบริการดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะในพื้นที่ได้อีกด้วย

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนนำไปเทียบกับยักษ์ใหญ่โฆษณาออนไลน์โลกอย่างกูเกิล เพราะที่ผ่านมา ทวิตเตอร์คือหนึ่งดาวดวงใหม่ที่ทรงอิทธิพลในวงการโฆษณาออนไลน์ องค์กรทั่วโลกต่างยอมรับว่าทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือชั้นยอดในการสื่อสารกับผู้บริโภค ทั้งการรับข้อมูลความคิดเห็น การหยั่งเสียงความนิยมในผลิตภัณฑ์ และความเป็นสังคมในทวิตเตอร์ ทำให้บางเสียงมองว่าระบบโปรโมททวีตส์มีโอกาสได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภคมากกว่าระบบ Google Adwords ซึ่งชาวออนไลน์หลายคนยอมรับว่าไม่เคยกดลิงก์โฆษณาเหล่านี้เลย

อย่างไรก็ตาม Dick Costolo ประธานฝ่ายปฏิบัติการของทวิตเตอร์ยืนยันว่า โปรโมททวีตส์มีความแตกต่างจากระบบ AdWords ของกูเกิลแน่นอน เนื่องจากโปรโมททวีตส์คือข้อความทวีตของจริง ไม่ใช่โฆษณา ย้ำว่าโปรโมททวีตส์อาจจะปรากฏที่ส่วนบนสุดของหน้าผลลัพท์การเสิร์ชของทวิตเตอร์หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสอดคล้องของปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น หากโปรโมททวีตส์มีจำนวนคลิกและอัตราตอบสนองต่อความสนใจน้อยกว่าที่ทวิตเตอร์กำหนด โปรโมททวีตส์ชิ้นนั้นจะถูกดึงออก และผู้โฆษณาไม่ต้องจ่ายเงิน

**ทำเงินเพื่อพัฒนา**

Evan Williams ซีอีโอทวิตเตอร์กล่าวถึงโปรโมททวีตส์ว่าเป็นเพราะที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการพัฒนาฟังก์ชันใหม่ๆ โปรโมททวีตส์จึงเป็นหนทางสร้างรายได้ให้ทวิตเตอร์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบของทวิตเตอร์ต่อไป

ขณะนี้ ร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks และยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่าง Best Buy ตกลงร่วมชิมลางระบบโฆษณาบนทวิตเตอร์เรียบร้อยแล้ว โดย Costolo ยอมรับว่าทวิตเตอร์มีแผนขยายบริการให้ครอบคลุมตลาดวงกว้าง แต่จะดำเนินงานอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอน โดยหลักใหญ่คือทวิตเตอร์จะลุยพัฒนาระบบวิเคราะห์ดัชนี Resonance หรืออัตราการตอบสนองของผู้บริโภคที่มีต่อข้อความทวีต ซึ่งจะวัดจากความถี่ในการเปิดอ่าน การส่งต่อ และการค้นหา ฯลฯ เพื่อป้องกันการทุจริตและรักษาคุณภาพของโปรโมททวีตส์ให้สดใหม่น่าสนใจเสมอ

ระบบ Resonance นี่เองที่ทวิตเตอร์เชื่อว่าจะพัฒนาไปสู่การโฆษณาในท้องถิ่น เช่นการจัดคอนเสิร์ตในพื้นที่บางจุด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้วงการโฆษณาออนไลน์เกิดการพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต

ทั้งหมดนี้ ทวิตเตอร์เชื่อว่าจะได้รับกำไรจากส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของยอดรายได้จากโปรโมททวีตส์ และจะแบ่งส่วนให้พันธมิตรที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลว่าระบบนี้อาจนำไปสู่ธุรกิจ"รับจ้างส่งต่อข้อความทวีต (retweet)" เพื่อปั่นยอด Resonance ลักษณะเดียวกับการโกงคลิกที่ระบบของกูเกิลเคยตกที่นั่งลำบากมาแล้ว จุดนี้ Costolo ระบุว่าทวิตเตอร์ได้แต่งตั้งบริษัทอิสระจำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อเป็นตัวช่วยตรวจสอบคุณภาพโปรโมททวีตส์อย่างเคร่งครัด
ที่มา link

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 5

ทวิตเตอร์ แรงจริง! ยอดทวีตทะลุ 2 หมื่นล้าน






สังคมออ นไลน์ทวิตเตอร์แรงจริง! มีผู้ใช้บริการทวีตข้อความทะลุ 2 หมื่นล้านครั้ง แล้ว โดยข้อความที่ 2 หมื่นล้าน คือ ผู้ทวีตชาวญี่ปุ่น
เว็บไซต์สังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ (http://twitter.com) มียอดโพสต์ข้อความถึง 20,000 ล้านครั้งแล้ว โดยเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์นั้น เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการส่งข้อความสั้นไม่เกิน 140 ตัวอักษร โดยเป็นที่นิยมใช้ไปทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ส่งต่อข่าวสารต่าง ๆ และที่ฮิตที่สุดคือโพสต์ข้อความบอกเล่ากิจกรรมประจำวันของตัวเอง
โดยเมื่อ เวลา 22.44 น. ของคืนวันเสาร์ที่ 31 ก.ค. ชาวทวิตเตอร์ต่างพากันส่งข้อความไปแสดงความยินดีให้กับ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ขาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า @GGGGGGo_Lets_Go ที่ประกอบอาชีพ กราฟิกดีไซเนอร์ เมื่อเขาเป็นผู้โชคดีที่ได้ทวีตข้อความที่ 20,000 ล้านพอดี ซึ่งเจ้าตัวก็ยังประหลาดใจ
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และผู้ใช้ทวิตเตอร์จากประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ทวีตข้อความถึงวันละเกือบ 8 ล้านข้อความ คิดเป็น 12% ของ ข้อความจากทั่วโลก โดยมีสหรัฐอเมริกานำอยู่ในอันดับที่ 1

อย่าง ไรก็ตาม นาย อีวาน วิลเลียมส์ ผู้บริหารระดับสูงของทวิตเตอร์ ก็จะมีการเดินทางไปยังกรุงโตเกียว เพื่อร่วมงานเฉลิมฉลอง ทีมเบสบอล โตเกียว ยาคูลต์ สวอลโลว์ ทีมดังในญี่ปุ่น และทีมโปรดของผู้ทวีตข้อความที่ 20,000 ล้านด้วย


ที่มา link

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การสืบค้นข้อมูลด้วย OPAC

จักรยานโบราณ


downlond

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 4


สมาคมเทนนิสแห่งชาติสหรัฐฯระแวง ทวิตเตอร์ (Twitter) อาจทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันยูเอสโอเพ่นผิดกฎว่าด้วยการป้องกันการ

ฉ้อโกงระหว่างการแข่งขันโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะการเป็นแหล่งข้อมูลเพื่อการพนัน เตือนทั้งผู้ชิงชัยและผู้เกี่ยวข้องในศึกยูเอสโอเพ่น (U.S. Open) ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ให้ระมัดระวังการส่งข้อความบล็อกสั้นด้วยทวิตเตอร์ให้ดี เพื่อป้องกันผลเสียจากการกระจายข้อมูลทุกกรณี…..

Tennis Integrity Unit หน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยในเครือสมาคมเทนนิสนานาชาติหรือ ITF Tennis นำประกาศข้อความเตือนภัยเว็บไซต์เครือข่ายสังคมยอดฮิตอย่างทวิตเตอร์มาติด ไว้ที่ห้องพักนักกีฬา ห้องเก็บตู้ล็อคเกอร์ รวมถึงสำนักงานกรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันในศูนย์ USTA Billie Jean King National Tennis Center หัวเรื่องของประกาศดังกล่าวคือ “Important. Player Notice. Twitter Warning.” ตามด้วยข้อความที่ระบุว่าทวิตเตอร์มีความเสี่ยงผิดต่อกฎป้องกันการฉ้อโกงใน การแข่งขันเทนนิส

ในประกาศระบุว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยูเอสโอเพ่นจำนวนมากล้วนมีชื่อบัญชีทวิตเตอร์เอาไว้ให้ แฟนคลับหรือผู้ชื่นชอบติดตามข่าวสารหรือ follow จนกลายเป็นสิ่งที่ผูกติดกับชีวิตประจำวันและการเล่นกีฬา “ซึ่งเมื่อทวิตเตอร์ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดีและนิยมอย่างแพร่หลาย จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องประกาศเตือนให้ระวังการโพสต์ข้อความ ทวิตเตอร์ที่เป็นอันตรายเพราะการผิดกฎ Tennis Anti-Corruption Program Rules”

เมื่อ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว แอนดี้ ร็อดดิก นักเทนนิสชื่อดังที่คว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นปี 2003 แสดงความไม่เห็นด้วยกับประกาศเตือนของหน่วย TIU โดยข้อความทวีตของเขาเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาระบุว่ายูเอสโอเพ่นกำลัง พยายามควบคุมการทวีตของเหล่าผู้เกี่ยวข้องในช่วงเวลาส่วนตัว ไม่ใช่การควบคุมในสนามอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในข้อความต่อมา ร็อดดิกย้ำอีกครั้งว่าการเผยแพร่ข้อมูลภายในบนทวิตเตอร์นั้นเป็น”เรื่องที่ โง่มาก” จึงไม่เห็นด้วยกับการออกกฎของยูเอสโอเพ่นครั้งนี้

Chris Widmaier โฆษกยูเอสโอเพ่นให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าเห็นด้วยกับร็อดดิก แต่ในยุคสื่อใหม่ การควบคุมทวิตเตอร์เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความแน่ใจว่าการแข่ง ขันจะดำเนินไปโดยสงบเรียบร้อย

นี่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทวิตเตอร์ถูกมองว่าจะเกิดผลในแง่ลบ ลีกการแข่งขันกีฬาจำนวนมากและหน่วยงานราชการหลายส่วนนั้นเน้นตรวจตราการส่ง ข้อความทวิตเตอร์อย่างใกล้ชิดยิ่งกว่านักกีฬาที่ต้องการหาช่องทางให้แฟนคลับ ผู้ชื่นชอบสามารถเข้าถึงข่าวสารได้โดยตรง ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ประกาศห้ามเจ้าหน้าที่ทุกคนโพสต์ข้อมูลในเว็บเครือข่ายสังคมทั้ง ทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ก หรือการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ก็มีการเตือนผู้เล่นไม่ให้ใช้ทวิตเตอร์แล้ว แต่เทนนิสเป็นกีฬาชนิดแรกที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทวิตเตอร์อาจมีส่วนส่งเสริมการพนันในเกม

ยูเอสโอเพ่นนั้นออกกฎห้ามการส่งข้อความทวีตทั้งระหว่างนัดแข่งและ สนามแข่ง โดยห้ามส่งข้อมูลความลับเกี่ยวกับการแข่งขันทั้งของคู่ตัวเอง คู่คนอื่น และผู้เล่นเฉพาะราย ซึ่งได้แก่ ข้อความประเมินศักยภาพของผู้เล่น อากาศภายในสนาม สถานะและความเป็นไปในสนาม คำสั่งห้ามนี้นอกจากจะมีผลกับนักกีฬา ยังมีผลกับผู้ฝึกซ้อม พนักงานทั่วไปและครอบครัวของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทวิตเตอร์นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 เป็นบริการสำหรับส่งข้อความ What are you doing? เพื่อบอกเล่าว่ากำลังทำอะไรหรือคิดอะไรในขณะนั้น นอกจากการตะโกนบอก เสน่ห์ของทวิตเตอร์ยังอยู่ที่การได้รับฟังจากคนที่เราสนใจ โดยทุกคนสามารถลงชื่อเป็นผู้ติดตามหรือ follower เจ้าของชื่อทวิตเตอร์ใดก็ได้ เพื่อให้ได้รับรู้ความคิดในขณะนั้นของคนที่ชื่นชอบได้แบบเรียลไทม์

เหล่าคนดังในปัจจุบันนิยมเป็นสมาชิกทวิตเตอร์เพื่อให้แฟนคลับของตัว เองสามารถเข้ามาติดตามข่าวสารจากปากโดยตรง ไม่ใช่ข่าวที่เติมสีใส่ไข่จากสื่อมวลชนบางสื่อ การใช้งานทวิตเตอร์จึงแพร่หลาย โดยทวิตเตอร์ของเซเรนา วิลเลียมส์ นั้นมีจำนวนผู้ติดตามทั่วโลกใกล้เคียง 1 ล้านคนแล้ว ขณะที่ร็อดดิกมีผู้จำนวนผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน ซึ่งนักกีฬาส่วนใหญ่ใช้ทวิตเตอร์ในการอัปเดทอาการเจ็บป่วยหรือการซ้อมของตน เอง นี่เองเป็นสิ่งที่สมาคมเทนนิสกลัวว่าการกระจายข้อมูลเหล่านี้อาจส่งเสริมการ พนันในการแข่งขันเทนนิสได้ และมีแนวโน้มว่ากฎห้ามทวิตเตอร์อาจจะมีการประกาศใช้ทั่ววงการกีฬาโลกในอนาคต ทั้งที่ทวิตเตอร์มีประโยชน์มากในการประชาสัมพันธ์งานประชุมหรือนิทรรศการ อื่นๆ


ที่มา link

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 3


“เล่นทวิตเตอร์บนยาฮู” Twitter on Yahoo




ยาฮู (Yahoo) ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตประกาศแผนผูกบริการน้องใหม่ดาวรุ่ง “ทวิตเตอร์ (Twitter)” เข้ากับนานาบริการของยาฮู ผลคือผู้ใช้ยาฮูจะสามารถเล่นทวิตเตอร์ได้บนหน้าเว็บไซต์ยาฮูโดยตรง หวังตอบโจทย์ชาวเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วโลก

ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดความร่วมมือที่ชัดเจนในขณะนี้ ผู้บริหารยาฮูระบุเพียงว่า ความร่วมมือระหว่างยาฮูและทวิตเตอร์ในครั้งนี้จะทำให้ชาวออนไลน์สามารถอ่าน และส่งข้อความทวีต (Tweet) ได้บนเว็บไซต์ยาฮูเลย จุดประสงค์คือการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ไม่ต้องออกจากหน้าเว็บไซต์ยาฮู โดยคาดว่ายาฮูจะแบ่งรายได้จากการโฆษณาบางส่วนให้แก่ทวิตเตอร์ด้วย

ทวีตคือชื่อเรียกข้อความบอกเล่าความคิดของตัวเองในขณะนั้นความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่งไปมาบนระบบ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นราว 2 เดือนให้หลังจากการประกาศเป็นพันธมิตรลักษณะเดียวกันกับเฟสบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลก และเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากกูเกิลเพิ่งเปิดตัวบริการ Google Buzz ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติการทำงานด้านเครือข่ายสังคมให้ผู้ใช้บริการอีเมล “จีเมล” สามารถส่งข้อความอัปเดทสถานะและแบ่งปันภาพให้กับกลุ่มเพื่อนได้ไม่ต่างจาก ทวีตเตอร์และเฟสบุ๊ก บนจุดมุ่งหมายให้ผู้ใช้จีเมลไม่ต้องออกจากหน้าเว็บ เพื่อไปทำกิจกรรมเครือข่ายสังคมที่เว็บอื่นเช่นกัน

ทิศทางที่เกิดขึ้นแปลว่า เฟสบุ๊กและทวิตเตอร์ต่างก็ทำให้ยักษ์ใหญ่อินเตอร์เน็ตอย่างกูเกิลและยาฮู ต้องปรับกลยุทธ์ตาม เพื่อให้สามารถดึงผู้ใช้ไว้กับเว็บให้มากที่สุด อันจะทำให้รายได้จากโฆษณาออนไลน์เกิดขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ

ดีกรีความสำเร็จส่วนหนึ่งของทวิตเตอร์สามารถนับได้ข้อความทวีตที่เจ้าตัว บอกว่ามีมากกว่า 50 ล้านข้อความต่อวัน (ทั่วโลก) สำหรับเฟสบุ๊ก ข้อมูลจากบริษัทวิจัย comScore ระบุว่าเฟสบุ๊กคือเว็บไซต์ที่ชาวอเมริกันเข้ามาใช้งานมากเป็นอันดับ 4 ด้วยสถิติ 112 ล้านราย ตามหลังอันดับ 3 ซึ่งเป็นบริการของไมโครซอฟท์

ยาฮูสามารถครองตำแหน่งเว็บไซต์ที่ชาวอเมริกันใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ยอดผู้ใช้งานคือ 164 ล้านราย

นอกจากการเปิดทางให้มีการเล่นทวิตเตอร์บนยาฮู ยังมีข้อตกลงเรื่องการเพิ่มข้อความทวีตลงในผลการเสิร์ชของยาฮู ซึ่งมีแนวคิดเดียวกับ “real time search” ที่กูเกิลและไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับทวิตเตอร์และเฟสบุ๊กไปแล้วเมื่อ ปีก่อน เพื่อให้ผู้ค้นหาข้อมูลสามารถพบข้อมูลคุณภาพที่อัปเดทสม่ำเสมอบนเครือข่าย สังคม

ยาฮูระบุว่ามีแผนแสดงผลข้อความทวีตแบบสดๆในบริการอื่นของยาฮู เช่น ในบริการอีเมล บริการข่าวสารกีฬา บันเทิง และการเงิน ซึ่งจะเห็นความแตกต่างชัดเจนภายในปีนี้

แม้ผู้บริหารยาฮูจะไม่เปิดเผยข้อตกลงด้านการเงินกับทวิตเตอร์ แต่สื่อต่างประเทศบางแห่งระบุว่า ไมโครซอฟท์และกูเกิลเคยจ่ายเงินให้ทวิตเตอร์ราว 25 ล้านเหรียญเพื่อให้ได้สิทธิในการแสดงผลข้อความทวีตในผลการเสิร์ช อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารทวิตเตอร์เคยออกมายืนยันว่าบริษัทไม่มีนโยบายทำเงินจากข้อความทวีต เนื่องจากสิทธิความเป็นเจ้าของข้อความทวีตเหล่านี้คือผู้บริโภค ไม่ใช่ทวิตเตอร์ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนใดๆในขณะนี้
ที่มา link

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 2


การใช้ Facebook เพิ่มความฉลาด แต่การใช้ Twitter นั้นส่งผลกลับกัน

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ข่าวนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ และมาจากหนังสือพิมพ์นะครับหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษได้รายงานว่า Dr. Tracy Alloway จาก University of Stirling ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านความจำระดับใช้งาน

(Working Memory — เป็นความจำระยะสั้นชนิดหนึ่ง) ได้กล่าวปาฐกถาเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยของเธอ ที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกเด็กที่เรียนช้าให้มีความจำระดับใช้งานที่ดีขึ้น และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คือเด็กที่ผ่านการอบรมนั้นมีไอคิวที่ดีกว่า, มีความสามารถในการอ่านดีกว่า และได้คะแนนจากการทดสอบด้านคณิตศาสตร์ดีกว่า

เธอยังได้กล่าวอีกด้วยว่าการที่จะพัฒนาความจำระดับใช้งานนั้นจำเป็นจะต้องมีทั้งการ “จำ” และการ “ประมวลผล” ของข้อมูล โดยเธอให้ความเห็นว่าการเล่นเกม Sudoku หรือการอัปเดต facebook นั้นจำเป็นที่จะต้องใช้การประมวลผล ในขณะที่การใช้งาน Twitter, YouTube หรือแม้แต่การส่งข้อความทั่วไปนั้นเป็นการได้ข้อมูลอย่างรวบรัดมาเป็นปริมาณมาก และไม่ก่อให้เกิดการประมวลผล ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาความจำแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังข้อมูลปริมาณมากยังส่งผลให้สมาธิสั้นลง และทำให้สมองนั้นไม่สร้างการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทอีกด้วย




ที่มา link

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 1


มีรายงานข่าวจาก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที แจ้งว่านายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที ได้เห็นความสำคัญของการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเซี่ยล เน็ตเวิร์ค อาทิ เว็บไซต์เฟซบุ๊ค (www.facebook.com) และ ทวิตเตอร์(www.twitter.com) เป็นช่องทางสื่อสาร ประกอบกับกระทรวงไอซีที ในฐานะที่เป็นกระทรวงที่ดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ จึงเห็นว่าควรยกระดับการสื่อสารของตัวแทนประชาชน โดยเฉพาะ สส.และสว.ให้รู้จักใช้ช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย และรวดเร็วมากขึ้น

ที่มา link

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

THAILAND CHAMPIONSHIPS BMX 2010 # 2
การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ รายการ" ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ บี เอ็ม เอ็กซ์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ" ประจำปี 2010 เก็บคะแนนสะสมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 53 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในสนามที่ 2

ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ








การแข่งขันในสนามที่ 3 จะมีการแข่งขันในวันที่ 18 กรกฏาคม 2553 ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

การแข่งขันในสนามที่ 4 จะมีการแข่งขันในวันที่ 13 พฤษจิกายน 2553 ที่สนามแสดงช้าง