วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 3


“เล่นทวิตเตอร์บนยาฮู” Twitter on Yahoo




ยาฮู (Yahoo) ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตประกาศแผนผูกบริการน้องใหม่ดาวรุ่ง “ทวิตเตอร์ (Twitter)” เข้ากับนานาบริการของยาฮู ผลคือผู้ใช้ยาฮูจะสามารถเล่นทวิตเตอร์ได้บนหน้าเว็บไซต์ยาฮูโดยตรง หวังตอบโจทย์ชาวเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วโลก

ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดความร่วมมือที่ชัดเจนในขณะนี้ ผู้บริหารยาฮูระบุเพียงว่า ความร่วมมือระหว่างยาฮูและทวิตเตอร์ในครั้งนี้จะทำให้ชาวออนไลน์สามารถอ่าน และส่งข้อความทวีต (Tweet) ได้บนเว็บไซต์ยาฮูเลย จุดประสงค์คือการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ไม่ต้องออกจากหน้าเว็บไซต์ยาฮู โดยคาดว่ายาฮูจะแบ่งรายได้จากการโฆษณาบางส่วนให้แก่ทวิตเตอร์ด้วย

ทวีตคือชื่อเรียกข้อความบอกเล่าความคิดของตัวเองในขณะนั้นความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่งไปมาบนระบบ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นราว 2 เดือนให้หลังจากการประกาศเป็นพันธมิตรลักษณะเดียวกันกับเฟสบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลก และเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากกูเกิลเพิ่งเปิดตัวบริการ Google Buzz ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติการทำงานด้านเครือข่ายสังคมให้ผู้ใช้บริการอีเมล “จีเมล” สามารถส่งข้อความอัปเดทสถานะและแบ่งปันภาพให้กับกลุ่มเพื่อนได้ไม่ต่างจาก ทวีตเตอร์และเฟสบุ๊ก บนจุดมุ่งหมายให้ผู้ใช้จีเมลไม่ต้องออกจากหน้าเว็บ เพื่อไปทำกิจกรรมเครือข่ายสังคมที่เว็บอื่นเช่นกัน

ทิศทางที่เกิดขึ้นแปลว่า เฟสบุ๊กและทวิตเตอร์ต่างก็ทำให้ยักษ์ใหญ่อินเตอร์เน็ตอย่างกูเกิลและยาฮู ต้องปรับกลยุทธ์ตาม เพื่อให้สามารถดึงผู้ใช้ไว้กับเว็บให้มากที่สุด อันจะทำให้รายได้จากโฆษณาออนไลน์เกิดขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ

ดีกรีความสำเร็จส่วนหนึ่งของทวิตเตอร์สามารถนับได้ข้อความทวีตที่เจ้าตัว บอกว่ามีมากกว่า 50 ล้านข้อความต่อวัน (ทั่วโลก) สำหรับเฟสบุ๊ก ข้อมูลจากบริษัทวิจัย comScore ระบุว่าเฟสบุ๊กคือเว็บไซต์ที่ชาวอเมริกันเข้ามาใช้งานมากเป็นอันดับ 4 ด้วยสถิติ 112 ล้านราย ตามหลังอันดับ 3 ซึ่งเป็นบริการของไมโครซอฟท์

ยาฮูสามารถครองตำแหน่งเว็บไซต์ที่ชาวอเมริกันใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ยอดผู้ใช้งานคือ 164 ล้านราย

นอกจากการเปิดทางให้มีการเล่นทวิตเตอร์บนยาฮู ยังมีข้อตกลงเรื่องการเพิ่มข้อความทวีตลงในผลการเสิร์ชของยาฮู ซึ่งมีแนวคิดเดียวกับ “real time search” ที่กูเกิลและไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับทวิตเตอร์และเฟสบุ๊กไปแล้วเมื่อ ปีก่อน เพื่อให้ผู้ค้นหาข้อมูลสามารถพบข้อมูลคุณภาพที่อัปเดทสม่ำเสมอบนเครือข่าย สังคม

ยาฮูระบุว่ามีแผนแสดงผลข้อความทวีตแบบสดๆในบริการอื่นของยาฮู เช่น ในบริการอีเมล บริการข่าวสารกีฬา บันเทิง และการเงิน ซึ่งจะเห็นความแตกต่างชัดเจนภายในปีนี้

แม้ผู้บริหารยาฮูจะไม่เปิดเผยข้อตกลงด้านการเงินกับทวิตเตอร์ แต่สื่อต่างประเทศบางแห่งระบุว่า ไมโครซอฟท์และกูเกิลเคยจ่ายเงินให้ทวิตเตอร์ราว 25 ล้านเหรียญเพื่อให้ได้สิทธิในการแสดงผลข้อความทวีตในผลการเสิร์ช อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารทวิตเตอร์เคยออกมายืนยันว่าบริษัทไม่มีนโยบายทำเงินจากข้อความทวีต เนื่องจากสิทธิความเป็นเจ้าของข้อความทวีตเหล่านี้คือผู้บริโภค ไม่ใช่ทวิตเตอร์ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนใดๆในขณะนี้
ที่มา link

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 2


การใช้ Facebook เพิ่มความฉลาด แต่การใช้ Twitter นั้นส่งผลกลับกัน

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ข่าวนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ และมาจากหนังสือพิมพ์นะครับหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษได้รายงานว่า Dr. Tracy Alloway จาก University of Stirling ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านความจำระดับใช้งาน

(Working Memory — เป็นความจำระยะสั้นชนิดหนึ่ง) ได้กล่าวปาฐกถาเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยของเธอ ที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกเด็กที่เรียนช้าให้มีความจำระดับใช้งานที่ดีขึ้น และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คือเด็กที่ผ่านการอบรมนั้นมีไอคิวที่ดีกว่า, มีความสามารถในการอ่านดีกว่า และได้คะแนนจากการทดสอบด้านคณิตศาสตร์ดีกว่า

เธอยังได้กล่าวอีกด้วยว่าการที่จะพัฒนาความจำระดับใช้งานนั้นจำเป็นจะต้องมีทั้งการ “จำ” และการ “ประมวลผล” ของข้อมูล โดยเธอให้ความเห็นว่าการเล่นเกม Sudoku หรือการอัปเดต facebook นั้นจำเป็นที่จะต้องใช้การประมวลผล ในขณะที่การใช้งาน Twitter, YouTube หรือแม้แต่การส่งข้อความทั่วไปนั้นเป็นการได้ข้อมูลอย่างรวบรัดมาเป็นปริมาณมาก และไม่ก่อให้เกิดการประมวลผล ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาความจำแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังข้อมูลปริมาณมากยังส่งผลให้สมาธิสั้นลง และทำให้สมองนั้นไม่สร้างการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทอีกด้วย




ที่มา link

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 1


มีรายงานข่าวจาก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที แจ้งว่านายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที ได้เห็นความสำคัญของการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเซี่ยล เน็ตเวิร์ค อาทิ เว็บไซต์เฟซบุ๊ค (www.facebook.com) และ ทวิตเตอร์(www.twitter.com) เป็นช่องทางสื่อสาร ประกอบกับกระทรวงไอซีที ในฐานะที่เป็นกระทรวงที่ดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ จึงเห็นว่าควรยกระดับการสื่อสารของตัวแทนประชาชน โดยเฉพาะ สส.และสว.ให้รู้จักใช้ช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย และรวดเร็วมากขึ้น

ที่มา link

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553